ประวัติความเป็นมาของมูลนิธิพุทธสุวัณณภูมิ
“เมื่อต้นเดือนกันยายน 2561” พระครูวิศิษฏ์สรการ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม วรวิหาร และ พันเอกเกรียงไกร เทพนิมิตร ผู้อำนวยการกองอนุศาสนจารย์ กรมเสมียนตรา สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้เข้าพบหลวงพ่อเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ที่กุฏิเจ้าอาวาส ได้ปรารภถึงการสร้างสำนักปฏิบัติวิปัสสนากรมฐานขึ้นสักแห่งหนึ่ง หลวงพ่อสมเด็จฯ ได้ให้แนวคิดว่า ให้สร้างเป็นวัดจะดีกว่า โดยเริ่มสร้างเป็นสำนักสงฆ์ขึ้นมาก่อน แล้วพัฒนาขึ้นเป็นวัดในภายหลัง และสร้างสำนักปฏิบัติธรรมขึ้นมาในวัดนั้น เพื่อความสะดวกในการเริ่มต้นก็ให้ทำมูลนิธิขึ้นมาก่อน กำหนดวัตถุประสงค์กว้าง ๆ ไว้สัก ๔ – ๕ ข้อ เพื่อประโยชน์ของพระพุทธศาสนาและการบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ต่าง ๆ ใช้มูลนิธิดำเนินการในการจัดสร้างวัด
จากแนวคิดในครั้งนั้นจึงได้มีการจัดทำร่างมูลนิธิขึ้นมาเพื่อให้ท่านพิจารณา ตั้งชื่อมูลนิธิไว้แต่แรกว่า “มูลนิธิพุทธสุวรรณภูมิ” เพราะมองเห็นว่าพระพุทธศาสนาเผยแผ่ข้ามาในดินแดนสุวรรณภูมิ หลวงพ่อสมเด็จฯ ท่านเมตตาปรับแก้ให้เป็นภาษาบาลีทั้งหมดและให้ชื่อว่า “มูลนิธิพุทธสุวัณณภูมิ” มีความหมายว่า แผ่นดินทองแห่งพระพุทธศาสนา
จากนั้นจึงได้มองหากัลยาณมิตรที่จะเข้าร่วมเป็นกรรมการจัดตั้งมูลนิธิให้ถูกต้องตามกฎหมาย จึงได้เชิญชวนคุณตวงพร ทรัพย์สาคร อดีตผู้อำนวยการเขตคลองสาน , ดร. สุธี แก้วเขียว และ ดร.ภาคภูมิ นิยมวิทยพันธุ์ เป็นเบื้องต้น และคณะทำงานอีก ๕ – ๖ คน จัดทำเอกสารเพื่อจัดตั้งเป็นมูลนิธิ ได้หนังสือรับรองผู้จะเป็นกรรมการของมูลนิธิ จำนวน ๗ คน เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑ และได้ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ ทะเบียนเลขที่ กท ๒๙๓๐ ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ มีสำนักงานใหญ่ของมูลนิธิ ตั้งอยู่ที่ วัดพิชยญาติกราม วรวิหาร เลขที่ ๓๒ ถนนสมเด็จเจ้าพระยา แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพหานคร โดยมีท่าน ธนาคม จงจิระ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย นายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร
จากนั้นได้ไปกราบรายงานให้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อสมเด็จฯ ทราบอีกครั้งหนึ่ง “ท่านกำชับว่าใช้มูลนิธิทำประโยชน์ให้แก่พระศาสนา ให้แก่วัดวาอาราม การเผยแผ่พระพุทธศาสนา การสงเคราะห์อนุคราะห์พระภิกษุ สามเณร นักเรียน รวมถึงนักเรียนนักศึกษา ให้เป็นกิจจะลักษณะ”
หลังจากการจัดตั้งมูลนิธิพุทธสุวัณณภูมิเรียบร้อยแล้ว ได้ดำเนินการหาพื้นที่เพื่อสร้างสำนักสงฆ์ ตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสมเด็จฯ ได้แนะนำไว้ในเบื้องตัน ได้ไปดูพื้นที่ในเขตจังหวัดสุพรรณบุรี เพราะเห็นว่าไม่ไกลกับวัดพิชัยญาติมากนัก แต่ก็มีอันให้ต้องเปลี่ยนสถานที่ ไปดำเนินการที่บ้านเกิดของพระครูวิศิษฏ์สรการ ที่อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา ขณะนี้กำลังทำเอกสารเกี่ยวกับพื้นที่สร้างสำนักสงฆ์และสร้างวัด คาดว่าอีกไม่นานนักคงจะแล้วเสร็จ และสามารถเริ่มดำเนินกิจกรรมหลักของมูลนิธิฯ ได้เต็มที่
ในส่วนของการบริหารมูลนิธิฯ นั้น ท่านพระครูวิศิษฏ์สรการ ทำหน้าที่เป็นประธานมูลนิธิพุทธสุวัณณภูมิ ได้มีการประสานงานกับนายทหาร และคณะศรัทธาหลายท่าน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นกรรมการที่ปรึกษา และเป็นกรรมกรอุปถัมภ์ เพื่อดำเนินกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ ให้เจริญก้าวหน้าสืบต่อไป